Revolution Idle X – เกมวงกลมไอดล์สุดล้ำ เติมเลข เต็มสีรุ้ง 🎮🌈
Revolution Idle X คือเวอร์ชันรีเมคใหม่ของเกมไอดล์คลาสสิกที่ถูกยกระดับทั้งภาพ ระบบ และความลึกของการเล่น แม้ตัวเกมจะถูกเรียกว่า “เดโม” แต่สิ่งที่มีให้สัมผัสกลับรู้สึกเหมือนเกมเต็มที่พร้อมให้คุณเล่นยาว ๆ แบบไม่มีวันจบ ทั้งเอฟเฟกต์ที่ลื่นไหล วงกลมหลากสีที่ค่อย ๆ เติม และตัวเลขที่ทะยานขึ้นแบบบ้าคลั่ง ทำให้ทุกนาทีที่ใช้ไปในเกมนี้ให้ความรู้สึกคุ้มค่าและเพลินมาก ✨
แกนหลักของเกมเข้าใจง่ายมาก:
-
เติม “วงกลม” ให้เต็ม
-
เก็บทรัพยากรและเพิ่มตัวเลข
-
ปลดล็อกสีใหม่ ๆ และเลเยอร์ใหม่ ๆ
-
ไต่ระดับไปจนถึง “สเปกตรัมสีรุ้ง” อันเป็นเหมือนถ้วยรางวัลสูงสุดของการเล่น 🌈
เบื้องหลังความเรียบง่ายนี้คือระบบต่าง ๆ อย่าง prestige, promotion, โบนัสถาวร และการเล่นแบบไม่รู้จบ ที่ทำให้คุณอยากเริ่มใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อไปให้ไกลกว่าเดิมทุกครั้ง
Revolution Idle X คือเกมแบบไหนกันแน่?
Revolution Idle X จัดอยู่ในแนวเกมไอดล์ / incremental ที่เน้นให้ “วงกลม” ค่อย ๆ เติมเองตามเวลา เมื่อวงกลมเต็ม คุณก็จะได้รับตัวเลขหรือทรัพยากรเพื่อใช้ขยับความก้าวหน้าต่อไป
ในแต่ละรอบการเล่น คุณจะ:
-
ดูวงกลมค่อย ๆ เติมทีละนิด
-
รับทรัพยากรเมื่อวงกลมเต็ม
-
นำทรัพยากรไปอัปเกรดความเร็ว การผลิต หรือปลดล็อกวงกลมใหม่
-
ดันตัวเลขขึ้นไปจนถึงระดับที่เมื่อก่อนคิดว่า “ไม่มีทางถึง”
เป้าหมายหลักคือการไปให้สุดทางจนจอของคุณเต็มไปด้วยสีสันแบบสเปกตรัมรุ้ง พร้อมตัวเลขที่ใหญ่จนแทบอ่านไม่ทัน และนี่คือเสน่ห์ของเกมแนวนี้แบบเต็ม ๆ
เบื้องหลังวงกลมที่ดูเรียบง่ายเหล่านี้ คือระบบหลัก ๆ เช่น
-
ระบบ อัปเกรด หลายสาย
-
ระบบ prestige ที่ให้คุณรีเซ็ตเพื่อรับโบนัสถาวร
-
ระบบ promotion ซึ่งเป็นชั้นรีเซ็ตระดับสูงขึ้นไปอีก
-
การเติบโตแบบไร้เพดาน ที่จะทำให้คุณอยากกลับมาดูตัวเลขของตัวเองทุกวัน 😄
แกนหลักของการเล่น: เติมวงกลม – ดูตัวเลขพุ่ง
แม้จะเป็นเกมที่ปล่อยให้ระบบทำงานเองได้ แต่จุดสนุกของ Revolution Idle X อยู่ตรงการดู “ความเชื่อมโยง” ของทุกอย่าง ตั้งแต่วงกลมเล็ก ๆ ในช่วงเริ่มต้น ไปจนถึงการคูณกันไปมาของตัวเลขในช่วงท้าย
1. ช่วงเริ่มต้น: วงกลมเล็ก ๆ กับทรัพยากรน้อยนิด
ตอนเริ่มเกม คุณจะมีเพียงวงกลมไม่กี่วงที่เติมตัวเองอย่างช้า ๆ
-
วงกลมเหล่านี้เมื่อเต็มจะให้ทรัพยากรพื้นฐาน
-
คุณนำทรัพยากรไปใช้ซื้ออัปเกรดง่าย ๆ เช่น เพิ่มความเร็ว หรือเพิ่มจำนวนที่ได้รับ
-
ค่อย ๆ เรียนรู้ว่าทุกการอัปเกรดส่งผลอย่างไรกับความเร็วในการเติบโต
นี่คือช่วงที่คุณจะเริ่มถามตัวเองว่า:
-
“ควรเพิ่มความเร็วให้วงกลมเดิม หรือเก็บเงินไปเปิดวงกลมใหม่ก่อนดี?”
-
“ลงทุนยาว ๆ หรือเอาแบบเห็นผลเร็ว?”
การตัดสินใจเล็ก ๆ เหล่านี้ค่อย ๆ สร้างสไตล์การเล่นของคุณขึ้นมา
2. ปลดล็อกวงกลมใหม่ เลเยอร์ใหม่ และความเป็นสีรุ้ง
เมื่อคุณเริ่มอัปเกรดมากขึ้น
-
วงกลมใหม่ ๆ จะถูกปลดล็อก
-
แต่ละวงกลมอาจมีการผลิตที่สูงกว่า หรือเติมเร็วกว่า
-
สีของวงกลมและเลเยอร์เริ่มแตกต่างและสดใสขึ้นเรื่อย ๆ
จากจอที่มีแค่วงกลมธรรมดาไม่กี่วง ตอนนี้เริ่มกลายเป็น “แผงควบคุมตัวเลข” ที่เต็มไปด้วยสีสัน ทุกเลเยอร์ที่ถูกปลดล็อกให้ความรู้สึกเหมือนคุณเพิ่งก้าวข้ามกำแพจของตัวเอง และการเข้าใกล้สเปกตรัมสีรุ้งก็เป็นตัวบอกว่า “คุณกำลังไปได้สวย” 🌈
3. เมื่อระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วย – เกมดำเนินต่อแม้คุณไม่อยู่
เริ่มแรกคุณอาจจะคอยดูแทบทุกอย่าง แต่พอเล่นไปสักพัก ระบบอัตโนมัติเริ่มทำงานอย่างจริงจัง
-
วงกลมเติมตัวเองเร็วขึ้น
-
การเก็บทรัพยากรบางส่วนเกิดขึ้นอัตโนมัติ
-
เกมยังคงเดินต่อแม้คุณจะไปทำอย่างอื่น
นี่แหละเสน่ห์ของเกมไอดล์:
-
คุณตั้งค่าและอัปเกรดให้ดี
-
ปล่อยเกมทิ้งไว้
-
กลับมาอีกทีพบว่าทรัพยากรล้นจนใช้แทบไม่ทัน 🎉
ความรู้สึกเวลาเปิดเกมกลับมาแล้วพบว่าตัวเลขพุ่งไกลกว่าที่คิด คือสิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากติดเกมแนวนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น
ระบบอัปเกรด, Prestige และ Promotion – วงจรการเติบโตไม่รู้จบ 🔁
Revolution Idle X มีเสน่ห์มากตรง “วงจรการเติบโต” ที่ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดไปเรื่อย ๆ แบบเส้นตรง แต่เป็นการวนลูปที่ทุกครั้งที่รีเซ็ต คุณจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
ระบบอัปเกรด: รากฐานของพลังทั้งหมด
ระหว่างเล่น คุณจะใช้ทรัพยากรที่ได้จากวงกลมไปกับการอัปเกรดหลายรูปแบบ เช่น
-
เพิ่มความเร็วในการเติมของวงกลม
-
เพิ่มปริมาณทรัพยากรที่ได้เมื่อวงกลมเต็ม
-
ปลดล็อกวงกลมชนิดใหม่ที่ให้ผลลัพธ์พิเศษ
-
เพิ่มตัวคูณ (multiplier) ต่าง ๆ ที่ซ้อนทับกันจนตัวเลขเติบโตแบบก้าวกระโดด
สไตล์การอัปเกรดของคุณจะกลายเป็น “บิลด์” เฉพาะตัว เช่น
-
สายความเร็ว เน้นให้ทุกอย่างเติมไวที่สุด
-
สายตัวคูณ เน้นให้ปลายทางตัวเลขระเบิดทีเดียว
-
สายผสม เน้นสมดุลให้ทุกอย่างเดินหน้าไปพร้อมกัน
ไม่มีคำตอบตายตัวว่าบิลด์ไหนดีที่สุด เพราะส่วนหนึ่งของความสนุกคือการลองผิดลองถูก แล้วค้นหาวิธีที่เข้ามือคุณที่สุดเอง
Prestige: รีเซ็ตหนึ่งครั้ง แต่ก้าวไกลขึ้นหลายเท่า
เมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่ง คุณจะเริ่มรู้สึกว่า:
-
วงกลมเติมช้าไปจากที่เคยรู้สึก “ไว”
-
อัปเกรดใหม่ ๆ มีราคาแพงจนเก็บเงินนานมาก
-
ความรู้สึกเติบโตช้าลงอย่างชัดเจน
ตรงนี้เองที่ระบบ prestige เข้ามามีบทบาท
เมื่อคุณกดทำ prestige:
-
ความก้าวหน้าส่วนใหญ่ในรอบปัจจุบันจะถูกรีเซ็ต
-
คุณจะได้รับทรัพยากรหรือโบนัสแบบถาวรบางอย่างกลับมา
-
เริ่มรอบใหม่ด้วยพลังที่สูงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ผลลัพธ์ที่เห็นชัดคือ
-
ด่านหรือจุดที่เคยใช้เวลานาน ตอนนี้ผ่านได้ภายในเวลาไม่นาน
-
อัปเกรดพื้นฐานที่เคยรู้สึกว่าช้ามาก กลับกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย
ดังนั้น prestige ไม่ใช่การ “เสียของ” แต่เป็นการ “ลงทุนระยะยาว” ที่ทำให้ทุกการเริ่มใหม่มีความหมายและคุ้มค่ามากขึ้นทุกครั้ง
Promotion: ชั้นรีเซ็ตระดับสูงสำหรับคนเล่นยาว
เมื่อคุณชำนาญระบบ prestige ไปแล้ว เกมจะเริ่มเผยระบบที่ลึกขึ้นอย่าง promotion
promotion สามารถมองได้ว่าเป็น prestige อีกรูปแบบหนึ่ง แต่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น:
-
อาจปลดล็อกกลไกใหม่ทั้งชุด
-
ให้โบนัสระดับ “เมต้า” ที่ส่งผลต่อทุกการเล่นต่อจากนี้
-
ทำให้คุณมีเป้าหมายระยะยาวหลายรอบต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่รอบเดียว
เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ วิธีคิดของคุณจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
-
จาก “ทำไงให้รอบนี้ไปไกลสุด”
-
กลายเป็น “ทำไงให้รอบนี้สร้างฐานที่ดีให้รอบหน้า ๆ ด้วย”
นี่คือจุดที่ Revolution Idle X จากเดิมเป็นแค่เกมปล่อยทิ้งไว้ ก็กลายเป็นเกมวางแผนระยะยาวแบบเงียบ ๆ ไปด้วยในตัว
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเกมเต็มตัว ทั้งที่เรียกว่าเดโม
แม้ชื่อจะบอกว่าเป็นเวอร์ชันรีเมคแบบเดโม แต่สิ่งที่คุณได้สัมผัสมีมากกว่าเกมทดลองทั่วไปแน่นอน
จุดที่น่าประทับใจ เช่น
-
กราฟิกและแอนิเมชัน ของวงกลมที่เติมตัวเองไหลลื่น ดูแล้วเพลินตามาก
-
หน้าตาอินเทอร์เฟซ ที่สะอาด อ่านง่าย ไม่รกตา
-
การตอบสนองของเกม เวลาอัปเกรด ปลดล็อก หรือ prestige ที่ชัดเจน ทำให้รู้ทันทีว่าคุณเก่งขึ้นจริง
เกมไม่ได้ยัดคำอธิบายยาว ๆ ใส่หน้าคุณ แต่ให้คุณเรียนรู้จากการลองทำเอง
-
กดอัปเกรด → เห็นการเปลี่ยนแปลง → เข้าใจระบบ
-
ลอง prestige ครั้งแรก → รู้สึกว่ารอบใหม่แรงกว่ารอบเก่า → เริ่มคิดกลยุทธ์เอง
ทั้งหมดนี้ทำให้ Revolution Idle X เป็นเกมที่ไม่ต้องอ่านคู่มือก็จับเนื้อหาหลัก ๆ ได้ แถมยังมี “ความลึก” ให้ขุดเล่นต่อไปเรื่อย ๆ
เคล็ดลับและกลยุทธ์สำหรับมือใหม่ 💡
อยากเล่นให้ลื่นตั้งแต่ต้นโดยไม่ต้องงมเยอะ? ลองดูแนวทางเหล่านี้ได้เลย
1. อัปเกรดเล็ก ๆ ตอนต้นเกมสำคัญกว่าที่คิด
ในช่วงแรกของเกม
-
การเพิ่มความเร็วเพียงเล็กน้อย
-
การเพิ่มจำนวนทรัพยากรต่อวงเล็ก ๆ น้อย ๆ
อาจดูไม่หวือหวา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผลรวมของมันคือความแตกต่างระดับใหญ่ ลองคิดแบบง่าย ๆ ว่า “อะไรที่ทำงานให้เราอยู่ตลอดเวลา ไม่นานก็คืนทุนแล้วคูณกำไรให้เอง”
ดังนั้นอย่ามัวแต่เก็บทรัพยากรเพื่อซื้ออัปเกรดที่ดูแพงและเท่ชิ้นเดียว ลองทยอยลงกับอัปเกรดเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ระบบทั้งหมดวิ่งเร็วขึ้น
2. อย่ากระจายทรัพยากรบาง ๆ ไปทุกทาง
พอมีตัวเลือกอัปเกรดเยอะ หลายคนจะเผลอ “ซื้ออย่างละนิดอย่างละหน่อย” จนไม่มีสายไหนโดดเด่นเลย
วิธีที่มักได้ผลดีกว่าคือ
-
เลือกโฟกัส 1–2 สายหลัก เช่น สายความเร็ว + สายตัวคูณพื้นฐาน
-
อัปไปให้สุดจนรู้สึกว่าตัวเลขพุ่งแรงแบบเห็นภาพ
-
จากนั้นค่อยขยายไปแตะสายอื่นเพิ่มเติม
การโฟกัสให้ชัดช่วยให้คุณผ่านจุดตันเร็วขึ้น แทนที่จะย่ำอยู่กับที่ด้วยอัปเกรดเล็ก ๆ งง ๆ เต็มไปหมด
3. ฝึกอ่านจังหวะว่า “ถึงเวลาทำ prestige หรือยัง”
คำถามยอดฮิตของเกมแนวนี้: “ควรรีเซ็ตเมื่อไหร่ดี?”
สัญญาณว่าเริ่มถึงเวลา prestige แล้ว เช่น
-
รู้สึกว่าตัวเลขขยับช้าลงชัดเจน
-
อัปเกรดใหม่ ๆ ราคาโหดมาก แต่ผลที่ได้ไม่คุ้มเท่าเดิม
-
หน้า prestige แสดงโบนัสที่ดูมากพอสมควร ไม่ใช่นิดเดียวเหมือนตอนแรก ๆ
ไม่ต้องกลัวผิด ลอง prestige บ่อย ๆ ในช่วงเรียนรู้ เพื่อให้เริ่มจับ “จังหวะทอง” ของตัวเองได้ว่าเมื่อไหร่คุ้มที่สุด 🔁
4. ใช้ประโยชน์จากเวลาที่คุณไม่ได้อยู่หน้าจอ
เพราะเป็นเกมไอดล์ ฉะนั้นช่วงที่คุณไม่เล่น คือช่วงที่เกมยังทำงานให้คุณอยู่เงียบ ๆ
ก่อนจะออกจากเกมสักพัก ลองทำสิ่งเหล่านี้:
-
ลงทุนกับอัปเกรดที่ช่วยการผลิตอัตโนมัติ
-
ปลดล็อกหรืออัปเกรดวงกลมที่ให้ผลดีที่สุดในเวลานั้น
-
ถ้าเพิ่ง prestige ให้จัดโครงสร้างพื้นฐานให้โอเคก่อนค่อยปิดเกม
พอคุณกลับมา คุณจะพบว่าทรัพยากรที่สะสมไว้เพียงพอให้ “กระโดด” ข้ามเฟสเดิม ๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว
5. ให้ภาพและสีในเกมเป็นตัวบอกทิศทาง
ใน Revolution Idle X สีและความเร็วของวงกลมไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่เป็น “ข้อมูล” สำคัญด้วย
-
วงกลมไหนเติมเร็วที่สุด แสดงว่าตรงนั้นคือแหล่งพลังหลักของคุณ
-
เมื่อเห็นสีใหม่หรือเลเยอร์ใหม่ แปลว่าคุณเพิ่งผ่านจุดสำคัญบางอย่างมา
-
ถ้าอยู่ดี ๆ ตัวเลขพุ่งแรงผิดปกติ ลองเช็กดูว่าคุณเพิ่งปลดล็อกหรืออัปเกรดอะไรไป
การสังเกตภาพรวมพวกนี้ช่วยให้คุณปรับแผนได้โดยไม่ต้องจ้องตัวเลขแบบละเอียดทุกตัว
6. เมื่อมี promotion แล้ว ให้คิดไกลกว่าหนึ่งรอบ
พอระบบ promotion เปิดใช้งาน เกมจะชวนคุณคิดแบบ “ระยะยาว”:
-
บางครั้งรอบนี้อาจช้าหน่อย แต่แลกกับการปลดล็อกโบนัสที่จะทำให้อีกหลายรอบต่อจากนี้สบายขึ้นมาก
-
บางครั้งคุณอาจเลือกทำ promotion เร็วหน่อย เพื่อรีบใช้ประโยชน์จากระบบใหม่ที่เพิ่งได้มา
ตรงนี้คือจุดที่เกมเริ่มเหมือนเกมวางแผนเชิงกลยุทธ์เงียบ ๆ ที่ให้คุณค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ วาง และปล่อยให้ระบบทำงานแทนคุณ
Revolution Idle X เหมาะกับใคร? 🎯
เกมนี้น่าจะถูกใจเป็นพิเศษสำหรับ
-
คนที่ชอบ เกมไอดล์ / incremental ที่เน้นดูตัวเลขโตไม่หยุด
-
คนที่ชอบ ปรับบิลด์และวางแผน หาวิธีอัปเกรดให้คุ้มที่สุด
-
คนที่มองหาเกม เล่นชิล ๆ เปิดทิ้งไว้ได้ แล้วค่อยกลับมาดูผลทีหลัง
-
แฟน ๆ เกมเวอร์ชันคลาสสิกที่อยากเห็นฉบับรีเมคที่สวยขึ้น ลึกขึ้น และลื่นขึ้น
คุณสามารถเล่นแบบเข้าแค่สั้น ๆ วันละไม่กี่นาทีเพื่อกดอัปเกรด แล้วปล่อยทิ้งไว้ หรือจะเล่นยาว ๆ เพื่อหาจุดรีเซ็ตที่ “เพอร์เฟกต์” ที่สุดก็ได้ เกมรองรับทุกสไตล์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ❓
ถาม: Revolution Idle X เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่เคยเล่นเกมไอดล์ไหม?
ตอบ: เหมาะมาก เพราะแกนหลักของเกมเข้าใจง่ายมาก แค่ดูวงกลมเติม → รับทรัพยากร → อัปเกรด → ทำซ้ำ ระบบอื่น ๆ อย่าง prestige หรือ promotion จะถูกทยอยแนะนำผ่านการเล่นจริง ไม่ได้ยัดทุกอย่างใส่คุณตั้งแต่แรก
ถาม: ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาหรือเปล่า?
ตอบ: ไม่จำเป็นเลย นี่คือเกมที่ออกแบบมาให้ “ทำงานเอง” ได้เป็นส่วนใหญ่ คุณแค่เข้ามาจัดการเป็นระยะ ๆ เช่น ใช้ทรัพยากรที่สะสมไว้ ทำ prestige หรืออัปเกรดชุดใหม่ จากนั้นก็ปล่อยให้เกมเดินต่อไปเองได้ 😴
ถาม: เวอร์ชันนี้ต่างจากตัวเกมคลาสสิกเดิมตรงไหน?
ตอบ: เวอร์ชันรีเมคนี้โดดเด่นกว่าเดิมหลายด้าน เช่น
-
ภาพและแอนิเมชันที่ดูทันสมัยและลื่นไหลกว่า
-
อินเทอร์เฟซที่อ่านง่าย ไม่รก
-
ระบบความก้าวหน้าที่ยกระดับขึ้น มีทั้ง prestige และ promotion ที่ช่วยให้เล่นได้ยาวขึ้น
-
ความรู้สึกเติบโตที่ชัดเจน แม้จะถูกเรียกว่าเดโมก็ตาม
ถาม: เกมนี้มี “จบ” ไหม หรือเล่นได้ไม่รู้จบ?
ตอบ: โดยหลักแล้วนี่คือเกมแนวเล่นได้เรื่อย ๆ แบบไม่มีตอนจบตายตัว คุณมีเป้าหมายชัด ๆ เช่น การไปถึงสเปกตรัมสีรุ้ง หรือระดับความก้าวหน้าบางชั้น แต่หลังจากนั้นก็ยังสามารถเล่นต่อเพื่อทำลายสถิติตัวเอง ลองบิลด์ใหม่ ๆ และไต่ตัวเลขให้สูงขึ้นได้เสมอ
ถาม: ระบบ prestige จำเป็นแค่ไหน?
ตอบ: ถ้าเน้นเล่นยาว prestige แทบจะเป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่ใช้ระบบนี้ คุณจะติดอยู่กับกำแพงระดับหนึ่งในที่สุด แต่ถ้าคุณใช้ prestige เป็น รอบต่อ ๆ ไปจะเริ่มต้นได้เร็วขึ้นและไปได้ไกลกว่าเดิมหลายเท่า
ถาม: เล่นเป็นช่วงสั้น ๆ ได้ไหม?
ตอบ: ได้ดีมากด้วย คุณสามารถ
-
เข้าเกมสัก 5–10 นาที
-
เก็บทรัพยากรที่สะสมไว้
-
ซื้ออัปเกรดสำคัญ
-
ถ้าได้จังหวะก็ prestige สักครั้ง
จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ให้เกมทำหน้าที่ของมัน แล้วค่อยกลับมาใหม่เมื่อคุณสะดวก
ถาม: ถ้าเพิ่งเริ่ม ควรโฟกัสอะไรเป็นอย่างแรก?
ตอบ: แนวทางง่าย ๆ คือ
-
เน้นอัปเกรดวงกลมพื้นฐานให้ผลิตเร็วและแรงขึ้นก่อน
-
เมื่อเห็นว่าโบนัสจาก prestige เริ่มเยอะในระดับหนึ่ง ให้ลองกด prestige ดูสักครั้ง เพื่อสัมผัสความต่างของรอบใหม่
-
ใช้ “สีรุ้ง” เป็นเหมือนเป้าหมายใหญ่ ถ้าเข้าใกล้หรือแตะมันได้ แปลว่าบิลด์ของคุณเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว 🌈
สรุป – จากวงกลมจิ๋วสู่ทะเลสีรุ้งของตัวเลข 🚀
Revolution Idle X คือการนำไอเดียแสนเรียบง่าย – วงกลมที่ค่อย ๆ เติม และตัวเลขที่ค่อย ๆ เพิ่ม – มาขยายให้กลายเป็นการเดินทางที่ยาวนาน ผ่อนคลาย แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ตัวเลขของคุณทะลุเพดานเดิม
หากคุณเป็นคนที่ชอบ
-
ดูตัวเลขโตแบบควบคุมไม่อยู่
-
รู้สึกว่าทุกครั้งที่รีเซ็ต คุณกลับมาเก่งกว่าเดิมหลายเท่า
-
อยากมีเกมที่เปิดทิ้งไว้ได้ แต่พอเข้าไปจัดการทีไรก็รู้สึกสนุกทุกครั้ง
Revolution Idle X คือนักเดินทางเงียบ ๆ คู่ใหม่ของคุณได้แน่นอน
เริ่มต้นจากวงกลมเล็ก ๆ วงเดียว ค่อย ๆ ปั้นมันด้วยอัปเกรดและ prestige จากนั้นลองก้าวไปสู่ promotion และระบบระดับสูงอื่น ๆ แล้วคุณจะพบว่าจอของคุณเต็มไปด้วยสีรุ้งและตัวเลขมหาศาลในแบบที่ตัวคุณเองก็คงคาดไม่ถึง
คำถามสุดท้ายก็เหลือแค่ว่า… คุณจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน? 🎮🌈























































